วิธีการตรวจสอบหลักฐานการครอบครองอสังหาริมทรัพย์
วิธีการตรวจสอบหลักฐานการครอบครองอสังหาริมทรัพย์
ในยุคที่การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าสูง การตรวจสอบ หลักฐานการครอบครอง ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้ซื้อ ผู้ขาย และนักลงทุนไม่ควรมองข้าม เพราะหากละเลย อาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมาย หรือสูญเสียเงินจำนวนมากได้ในภายหลัง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการถือครองอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้คุณมั่นใจก่อนตัดสินใจลงทุนหรือทำสัญญาใดๆ โฉนดที่ดิน คือเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ที่ระบุชัดเจนถึง ชื่อเจ้าของ เลขที่โฉนด ขนาดและตำแหน่งที่ดิน หนังสือรับรองการครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย ให้ตรวจสอบกับ สำนักงานที่ดิน ว่าเป็นโฉนดจริง ไม่มีการปลอมแปลง หรือมีภาระผูกพัน (เช่น การจำนอง หรือถูกอายัด) นอกจากโฉนด ยังมีเอกสารประเภทอื่น เช่น น.ส.3 / น.ส.3 ก (หนังสือรับรองการทำประโยชน์) ส.ค.1 (หนังสือแจ้งการครอบครองที่ดิน) การดู ประวัติการเปลี่ยนมือเจ้าของ ผ่านการโอนกรรมสิทธิ์ จะช่วยให้มั่นใจว่าไม่มีข้อพิพาทหรือการฟ้องร้องย้อนหลัง ที่ดินหรือทรัพย์สินอาจมีภาระ เช่น การจำนอง การถูกยึด การเป็นคดีความ ควรขอดู แผนผังที่ดิน (ระวาง) เพื่อดูว่า ที่ดินทับซ้อนกับเขตสาธารณะหรือไม่ มีแผนเวนคืนของรัฐหรือหน่วยงานใดหรือไม่ มีการรุกล้ำลำน้ำ ทางสาธารณะ หรือที่ดินผู้อื่นหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ที่สำนักงานที่ดิน หรือเทศบาล/อบต. ในพื้นที่ ควรขอสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขาย หากไม่แน่ใจเรื่องเอกสาร หรือกลัวพลาดในจุดสำคัญวิธีการตรวจสอบหลักฐานการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ก่อนซื้อขายหรือโอนสิทธิ์
1. ตรวจสอบ “โฉนดที่ดิน” (น.ส.4 จ)
2. ตรวจสอบ “หนังสือแสดงสิทธิครอบครองอื่นๆ”
ซึ่งไม่ใช่กรรมสิทธิ์เต็มรูปแบบ แต่สามารถนำไปขอออกโฉนดได้ในบางกรณี
ควรตรวจสอบว่าเอกสารเหล่านี้ออกโดยหน่วยงานรัฐ และระบุตำแหน่งที่ดินชัดเจน
3. ตรวจสอบเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ย้อนหลัง
สามารถขอคัดสำเนาการโอนกรรมสิทธิ์ได้ที่สำนักงานที่ดิน เพื่อดูว่าเจ้าของคนปัจจุบันมีสิทธิอย่างถูกต้องหรือไม่
4. ตรวจสอบภาระผูกพันต่างๆ
ควรขอตรวจสอบจากสำนักงานที่ดินในเขตพื้นที่โดยตรงว่า ทรัพย์นั้นมีภาระใดติดอยู่หรือไม่
5. ตรวจสอบแผนผังที่ดินและเขตเวนคืน
6. ตรวจสอบชื่อเจ้าของในบัตรประชาชน
เพื่อตรวจสอบว่า เป็นบุคคลเดียวกับที่ระบุไว้ในโฉนด
หากเป็นการขายโดยตัวแทน ต้องมีหนังสือมอบอำนาจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
7. ใช้บริการทนายความหรือนิติกรตรวจสอบให้
การจ้างผู้เชี่ยวชาญ เช่น ทนายความหรือนิติกรด้านอสังหาฯ มาช่วยตรวจสอบ
จะช่วยลดความเสี่ยง และทำให้มั่นใจในกระบวนการซื้อขายมากยิ่งขึ้น
11 เมษายน 2568
ผู้ชม 27 ครั้ง